งานสารทเดือนสิบ วัดภูเขาล้อม (วัดควนจง) จังหวัดสงขลา
เมื่อพูดถึงประเพณีที่อยู่คู่กับคนภาคใต้ของประเทศไทยมาช้านาน ทุกคนก็ต้องคิดถึง ประเพณี งานบุญ "สารทเดือนสิบ" ซึ่งจะมีขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ ถึงแรม 15 ค่ำเดือนสิบของทุกปี แต่สำหรับวันที่ชาวใต้ มักจะนิยมทำบุญกันมากคือ วันแรม 13-15 ค่ำ แล้วแต่ละท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะตรงกับเดือนกันยายนสำหรับปีนี้ Songkhla Story ก็ไม่พลาดที่จะไปร่วมงานบุญสารทเดือนสิบ และเก็บภาพสวยๆ มากฝากกัน
ประเพณีงานบุญสารทเดือนสิบ ได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากศาสนาพราหมณ์ ซึ่งภายหลังได้มีการผสมผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนา โดยจุดประสงค์เพื่อที่จะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ญาติพี่น้องที่ได้ล่วงลับไปแล้ว แสดงความกตัญญูกตเวที ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานบุญสารทเดือนสิบ คือ หฺมฺรับ หรือ สำรับ การจัดหฺมฺรับเป็นการเตรียมเสบียงอาหารบรรจุในภาชนะ เพื่อนำไปถวายพระสงฆ์ในช่วงเทศกาลเดือนสิบ เป็นการอุทิศส่วนกุศล ให้แก่บรรพชน หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว หลังจากถูกปล่อยตัวมาอยูํในเมืองมนุษย์ช่วงเวลาหนึ่ง และต้องถึงเวลา กลับไปใช้กรรมตามเดิม บรรดาลูกหลาน ก็จะต้องจัดเตรียม สิ่งของเครื่องใช้อาหาร ได้นำกลับไปใช้สอยในนรกภูมิ โดยหฺมฺรับจะประกอบด้วยขนม 5 ชนิด ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของบุญสารทเดือนสิบ คือ ขนมลา เปรียบเสมือนเป็นเสื้อผ้าที่จะใช้นุ่งห่ม ขนมพอง เปรียบเสมือนแพที่ใช้เป็นพาหนะในการข้ามห้วงหรรณพ ขนมกง เปรียบเสมือนเครื่องประดับ ใช้ตกแต่งร่างกาย ขนมบ้า เปรียบเสมือนเมล็ดสะบ้าที่ไว้ในการละเล่น และขนมดีซำ เปรียบเสมือนเงินตรา ไว้ใช้สอย
เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมาเราได้ไปร่วมงานบุญสารทเดือนสิบ ณ วัดควนจง หรือวัดภูเขาล้อม
ต.นาหม่อม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่ราว ๆ 15 กิโลเมตร บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ทยอยเดินทางมาร่วมทำบุญและเป็นโอกาสให้ญาติพี่น้องที่ไปทำงาน หรืออาศัยอยู่ต่างจังหวัดได้พบปะกัน พูดคุยกัน
เสร็จจากการฉลองหมฺรับ บังสุกลและถวายภัตตาหารพระสงฆ์เสร็จสิ้น ลูกหลานก็จะนำขนมอีกส่วนหนึ่งไปวางไว้ตามบริเวณลานวัด ข้างกำแพงวัด โคนไม้ใหญ่ เรียกว่า “ตั้งเปรต” เพื่อแผ่ส่วนกุศลเป็นทานแก่ผู้ล่วงลับที่ไม่มีญาติ หรือญาติไม่มาร่วมทำบุญให้ หลังตั้งเปรตเสร็จแล้ว จะเป็นการชิงเปรต ลูกหลานกรูเข้าไปหยิบของที่วางไว้ เชื่อว่าถ้าหากใครได้กินของเหลือจากการเซ่นไหว้บรรพบุรุษจะได้รับกุศลเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เด็ก ๆ ชอบกันมากเลยทีเดียว
No comments:
Post a Comment